ทหารกับตำรวจแตกต่างกันอย่างไร

ทหารกับตำรวจ ต่างกันยังไง เหมือนกันตรงไหนบ้าง ทหารกับตำรวจควรสอบเข้าอะไรดี

คำว่า ทหารกับตำรวจ มักเป็นคำคู่กันที่คุณได้ยินจนคุ้นหู เนื่องจากทั้งสองอาชีพที่มีหน้าที่สำคัญที่คล้ายกันอยู่คือ การปกป้องประเทศชาติบ้านเมืองให้กับเรา แต่ถ้าเปรียบเทียบในเรื่องของตำแหน่งงาน ความใกล้ชิดกับประชาชนของทหารกับตำรวจ

หรือในเรื่องความเสี่ยงภัยของทหารกับตำรวจจะมีความแตกต่างกัน สำหรับใครที่กำลังจะสอบเข้าเป็นข้าราชการไม่จะเป็นทหารหรือตำรวจก็ดี บทความนี้เราก็จะมาอธิบายความทหารกับตำรวจ ต่างกันยังไง เพื่อที่คุณจะได้นำไปประกอบในการตัดสินใจในการสมัครสอบเป็นข้าราชการ มาดูกันเลย


 

ตำรวจทำหน้าที่อะไรบ้าง

ข้าราชการตำรวจคือ บุคคลที่ได้รับการบรรจุเป็นเจ้าหน้าที่รัฐในสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หน้าที่ของอาชีพตำรวจคือ การตรวจตรา คอยรักษาความสงบ จับกุม และปราบปรามผู้ที่กระทำผิด ผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายในราชอาณาจักรไทย โดยข้าราชการตำรวจแบ่งออกเป็น 2 ชั้นหลักได้แก่ ข้าราชการตำรวจชั้นประทวน และข้าราชการตำรวจชั้นสัญญาบัตร

ลำดับยศของข้าราชการตำรวจ

ใครที่กำลังสงสัยว่าทหารกับตำรวจ ต่างกันยังไง โดยหน้าที่ของอาชีพตำรวจมีหน้าที่ค่อนข้างคล้ายกับทหาร แต่ลำดับยศตำรวจนั้นไม่เหมือนกับของทหาร ซึ่งของข้าราชการตำรวจจะลำดับยศมีดังนี้

            •  ชั้นสัญญาบัตร  

พลตำรวจเอก

พลตำรวจโท

พลตำรวจตรี

พลตำรวจจัตวา

พันตำรวจเอก (พิเศษ)

พันตำรวจเอก

พันตำรวจโท

พันตำรวจตรี

ร้อยตำรวจเอก

ร้อยตำรวจโท

ร้อยตำรวจตรี

 

พล.ต.อ.                     

พล.ต.ท.                     

พล.ต.ต.                     

พล.ต.จ.                     

พ.ต.อ. (พิเศษ)                               

พ.ต.อ.                       

พ.ต.ท.                       

พ.ต.ต.                       

ร.ต.อ.                        

ร.ต.ท.                       

ร.ต.ต.           

            •  ชั้นประทวน   

ดาบตำรวจ                       

จ่าสิบตำรวจ            

สิบตำรวจเอก                  

สิบตำรวจโท                   

สิบตำรวจตรี

 

ด.ต.                          

จ.ส.ต.                       

ส.ต.อ.                       

ส.ต.ท.                       

ส.ต.ต.  


 

ข้าราชการทหารคือใคร

ทหารมีหน้าที่อะไรบ้าง

ข้าราชการทหารคือ บุคคลที่ได้บรรจุเป็นส่วนหนึ่งของกองทัพ โดยมีหน้าที่เป็นทหารประจำการข้าราชการกลาโหมรวมทั้งพลเรือน ซึ่งข้าราชการทหารจะอยู่ในสังกัดกระทรวงกลาโหมหรือกองทัพไทย 

อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าทหารกับตำรวจจะมีหน้าที่ที่คล้ายคลึงกัน 

แต่ความแตกระหว่างทหารกับตำรวจ ต่างกันยังไงนั้นมีความต่างตั้งแต่การคัดเลือกผู้สมัคร เพราะการจะสมัครเข้ามาเป็นทหารในทางกองทัพนั้นอาจจะเป็นบุคคลที่ถูกเกณฑ์มาหรือมาด้วยความสมัครใจ เพื่อเข้ามาเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐชั้นประทวนหรือชั้นสัญญาบัตร

ประเภทของข้าราชการทหาร

คำถามที่ว่าทหารกับตำรวจ ต่างกันยังไง ซึ่งทหารกับตำรวจไม่ได้มีเพียงแค่ความแตกต่างในการคัดเลือกผู้สมัคร แต่ทางกองทัพยังมีการแบ่งออกเป็นเหล่าต่างๆ โดยประเภทของข้าราชการทหารแบ่งออกเป็น 3 กองทัพ ได้แก่

  • กองทัพบก 

กองกำลังที่ทำหน้าที่บนภาคพื้นดิน โดยมีหน้าที่หลักคือการป้องกันและปฏิบัติการรบในภาคพื้นดิน ซึ่งหน่วยรบของกองทัพบก แบ่งออกเป็น 3 เหล่า ได้แก่

ทหารราบคือ ทหารทำหน้าในการรบโดยใช้อาวุธประจำกายแบบระยะประชิด

ทหารม้าคือ ทหารทำหน้าในการรบโดยใช้พาหนะ ไม่ว่าจะเป็น รถถัง หรือยานเกราะแบบต่างๆ จึงเป็นหน่วยทหารที่มีอำนาจการยิงสูงและมีความสามารถในการเคลื่อนที่ได้รวดเร็ว

ทหารปืนใหญ่คือ ทหารทำหน้าในการรบโดยใช้ปืนใหญ่ หรืออาจจะเป็นปืนต่อสู้อากาศยาน เพื่อทำการยิงต่อที่หมายกำหนด หน้าที่ของทหารปืนใหญ่โดยหลักคือ ทำลายข้าศึกและสนับสนุนทหารเหล่าอื่นๆ

  • กองทัพเรือ 

หน่วยกองทัพที่ทำหน้าที่ปฏิบัติการทางน้ำโดยมีหน้าที่ป้องกันศัตรูจากทั้งในลำน้ำและในท้องทะเลหลวง นอกจากนี้หน่วยกองทัพเรือยังมีกิจการรวมทั้งนาวิกโยธินซึ่งเป็นทหารเรือฝ่ายบก และกิจการการป้องกันชายฝั่งด้วย 

  • กองทัพอากาศ 

หน่วยกองทัพที่ปฏิบัติการในอากาศหรือเกี่ยวข้องกับอากาศหน้าที่ของกองทัพอากาศคือ การปกป้องน่านฟ้าของประเทศ

จะเห็นได้ว่าการทำงานของข้าราชการตำรวจนั้นมีความแตกต่างกับข้าราชการทหาร เพราะอาชีพตำรวจจะทำงานดูแลความสงบให้กับประชาชนเป็นหลัก ส่วนทหารจะดูแลในเรื่องของฝ่ายศัตรูที่อาจรุกล้ำเข้ามาในประเทศเราได้


 

พื้นที่การทำงานของทหารกับตำรวจ

ใครที่สงสัยว่าอาชีพทหารกับตำรวจ ต่างกันยังไงซึ่งนอกเหนือจากการแบ่งลำดับชั้นยศ การแบ่งประเภทของหน่วยงานแล้วก็ยังมีพื้นที่การปฏิบัติงานที่มีความแตกต่างกันซึ่งมีดังนี้

  • พื้นที่การทำงานของทหาร

ทหารจะทำหน้าที่รักษาความสงบรักษา ความเรียบร้อย และความปลอดภัยให้กับประเทศ เพื่อเป็นการป้องกันศัตรูจากภายนอกประเทศ เพราะหน่วยงานของทหารมีความพร้อมในการรบทั้งภาคพื้นดิน ภาคพื้นน้ำ และภาคพื้นอากาศ จึงเปรียบได้ว่าทหารเป็นรั้วของชาตินั่นเอง

พื้นที่การทำงานของทหาร
  • พื้นที่การทำงานของตำรวจ

ตำรวจจะทำหน้าที่สอดส่องดูแลประชาชนในพื้นที่ให้ปลอดภัยอยู่อย่างสงบสุข ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม หากมีผู้ใดกระทำผิด ฝ่าฝืน ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ตำรวจมีอำนาจสามารถจับกุมผู้นั้นลงโทษตามกฎหมายได้ 

พื้นที่การทำงานของตำรวจ

นอกจากการดูแลความสงบสุขให้กับผู้คนแล้ว ตำรวจยังมีหน้าที่ดูแลให้ความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยวที่เข้ามาในประเทศของเราด้วย จะเห็นได้ว่าการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจนั้นเปรียบเสมือนพ่อบ้านที่ต้องคอยดูแลความเป็นอยู่ของผู้คนในบ้าน เพื่อให้ทุกคนอยู่รวมกันได้อย่างสงบเรียบร้อย


 

ความใกล้ชิดกับประชาชนของทหารกับตำรวจ

แม้การทำงานของทหารกับตำรวจจะทำงานใกล้ชิดกับประชาชนเหมือนกัน แต่ความใกล้ชิดนี้ก็ยังมีลักษณะงานที่แตกต่างกัน ซึ่งการทำงานของตำรวจจะมีความใกล้ชิดกับประชาชนมากกว่า ได้แก่ งานจราจร งานดับเพลิง การตรวจตราสอดส่องตามบ้านเรือน หรือแม้แต่การตามจับโจรผู้ร้าย

สำหรับงานของทหารส่วนใหญ่จะทำงานอยู่ในค่ายทหารและทำงานในด้านความมั่นคง งานของทหารที่มีความใกล้ชิดกับประชาชนบ่อยๆ คือการดูแลปกป้องตามเขตชายแดน

ทหารทำงานในด้านความมั่นคง

 

ความเสี่ยงในการทำงานของทหารกับตำรวจ

ถ้าถามว่าทหารกับตำรวจ ต่างกันยังไง อีกหนึ่งความแตกต่างระหว่างทหารกับตำรวจคือ ความเสี่ยงในการทำงาน โดยตำรวจจะมีความเสี่ยงที่ต้องพบเจอกับการจับผู้ร้ายและผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย 

นอกจากนี้ข้าราชการตำรวจยังมีความเสี่ยงอื่นอีกที่ต้องเจอ ได้แก่ ยาเสพติด ผู้ที่มีอิทธิพล มาเฟีย และคนวิกลจริต อีกทั้งตำรวจยังต้องจัดการกับสถานการณ์ที่ค่อนข้างรุนแรงไม่ว่าจะเป็น การใช้อาวุธตั้งแต่มีด ปืน ระเบิดทำมือ จนไปถึงอาวุธที่ก่อให้เกิดสงคราม

อำนาจของตำรวจ

ส่วนความเสี่ยงของทหารที่ต้องเจอคือ การต่อสู้กับศัตรู เพราะผู้ที่ก่อการร้ายมักแฝงตัวอยู่แทบจะทุกประเทศ ทหารจึงต้องมีความพร้อมที่จะรับความเสี่ยงนี้ตลอดเวลา อีกหนึ่งความเสี่ยงที่ทหารยังต้องรับมือคืออาวุธสงครามที่อันตราย


 

สรุป

คำถามที่ว่าทหารกับตำรวจ ต่างกันยังไง โดยหลักๆ ทั้งสองอาชีพนี้มีลักษณะการทำงานที่ไม่มีเหมือนกัน ไม่ว่าเป็นการลงพื้นที่ในการทำงาน ความใกล้ชิดประชาชน รวมไปถึงในเรื่องของความเสี่ยงที่ต้องพบเจอแต่สิ่งที่เหมือนกันนั่นคือ หน้าที่ในการปกป้องประเทศชาติเพื่อดูแลความสงบสุขให้กับบ้านเรา

นอกจากนี้สิ่งที่ทหารกับตำรวจมีเหมือนกันคือ สวัสดิการและเงินเดือน ทำให้ใครๆ ใฝ่ฝันอยากจะเป็นเพราะการทำงานก็คุ้มกับค่าตอบแทน หากน้องๆ มีความใฝ่ฝันอยากสอบเป็นข้าราชการ ไม่ว่าจะเป็นทหารหรือตำรวจก็ตาม น้องต้องเตรียมความพร้อมทั้งความรู้และร่างกายให้ดี ขยันอ่านหนังสือ มุ่งมั่นตั้งใจ ถ้าน้องยังไม่รู้จะเริ่มต้นอ่านหนังสือจากตรงไหนดี ก็หาตัวช่วยอย่าง คอร์สติวสอบตำรวจ

หากสนใจต้องการเรียนคอร์สติวสอบตำรวจกับติวเตอร์ผู้เชี่ยวชาญทาง GovEntPolice เป็นคอร์สติวสอบตำรวจที่มีครูผู้สอนอย่างมืออาชีพ ติวครบทุกวิชา และยังมีแนวข้อสอบมาให้น้องๆ ได้ฝึกฝน เรียกได้ว่าเป็นคอร์สติวสอบตำรวจที่ครบครัน สำหรับใครที่สนใจสามารถติดต่อตามช่องทางนี้ 


Top