พนักงานสอบสวน ถ้าอยากเป็นต้องสอบอะไร แล้วทำไมบางคนถึงไม่อยากทำ_

พนักงานสอบสวน ถ้าอยากเป็นต้องสอบอะไร แล้วทำไมบางคนถึงไม่อยากทำ?

อาชีพตำรวจไม่ได้มีแค่หน้าที่ใดหน้าที่หนึ่งเพียงอย่างเดียว อย่างที่รู้กันว่ายังมีแผนกแยกย่อยไปอีกหลายแผนก พนักงานสอบสวนก็เป็นแผนกหนึ่งในแผนกย่อยที่คอยทำหน้าที่รับใช้ประชาชนเช่นกัน แต่ทำไมหลายคนถึงไม่อยากทำหน้าที่นี้กันล่ะ? บทความนี้มีคำตอบให้คุณ ไปอ่านกันเลย!

พนักงานสอบสวนคือใคร ทำหน้าที่อะไรบ้าง

เมื่อพูดถึงพนักงานสอบสวน หลายคนอาจจะไม่คุ้นเคยเท่าไหร่นัก แต่เมื่อพูดถึงร้อยเวรหรือสารวัตรเวรอาจจะร้องอ๋อกันขึ้นมา เพราะพนักงานสอบสวนก็คือตำรวจด่านหน้าที่คอยรับแจ้งความที่โรงพักนั่นเอง

ซึ่งพนักงานสอบสวนจะแบ่งออกเป็น 2 ฝ่ายคือ

  • พนักงานสอบสวนฝ่ายตำรวจ: สามารถสอบสวนได้ทุกประเภทคดีทั่วราชอาณาจักร
  • พนักงานสอบสวนฝ่ายปกครอง: สามารถสอบสวนได้แค่คดีอาญาบางประเภทในจังหวัดอื่นนอกเหนือจากกรุงเทพฯ ตามกฎกระทรวงฯ

นอกจากการรับแจ้งความแล้วพนักงานสอบสวนก็ยังมีหน้าที่รวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อหาข้อเท็จจริงหรือพิสูจน์ความผิดตามที่กล่าวหา และนำตัวผู้กระทำผิดมารับโทษนั่นเอง

พนักงานสอบสวน

เผยสาเหตุทำไมบางคนไม่อยากเป็นพนักงานสอบสวน

พนักงานสอบสวนเครียด

ความเครียด

แน่นอนว่าเมื่อเป็นด่านหน้ารับการร้องทุกข์จากประชาชน ย่อมเกิดความเครียดและความกดดันได้ง่าย ทั้งต้องคอยไกล่เกลี่ย และรับมือจากแรงปะทะทางอารมณ์ของคู่กรณีทั้งสองฝ่าย เวลาที่มีจำกัดในการทำคดี ความยากในการทำงานกับหลายหน่วยงาน เพราะต้องรออนุมัติจากหลายฝ่ายจึงเป็นสาเหตุหลักว่าทำไมพนักงานสอบสวนถึงมีความเครียดมากกว่าตำแหน่งอื่น ๆ 

ความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน

เพราะปัจจุบันสายงานอื่นสามารถเข้ามาทำตำแหน่งพนักงานสอบสวนได้แล้ว จึงทำเกิดการแข่งขันที่สูงมากขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับในอดีต พนักงานสอบสวนที่ต้องแข่งขันกันเองจึงมีโอกาสเจริญก้าวหน้ามากกว่า 

นอกจากนี้พนักงานสอบสวนที่ต้องคอยรับเรื่องคดี อาจจะยุ่งกับการทำคดี ทั้งต้องลำดับคดีตามผู้บังคับบัญชา บางครั้งคดีอาจเกิดความล่าช้า ที่ไม่ได้เกิดจากตัวพนักงานสอบสวนเอง และยังโดนห้ามไม่ให้โยกย้ายไปช่วยรายการส่วนอื่นเพราะพนักงานสอบสวนนั้นมีน้อย จนต้องเปิดรับสมัครอยู่บ่อย ๆ จึงทำให้โอกาสเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงานยากกว่าตำรวจสายงานอื่น ๆ

การถูกร้องเรียนจากผู้เสียประโยชน์

เมื่อมีผู้ได้ประโยชน์ก็ต้องมีผู้เสียประโยชน์ พนักงานสอบสวนมีสิทธิ์ถูกร้องเรียนได้ง่าย หากผู้เสียประโยชน์รู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม และเมื่อมีการร้องเรียนก็จะส่งผลต่อการพิจารณาเลื่อนตำแหน่ง การแต่งตั้ง หรือแม้กระทั่งการโยกย้าย 

แต่ถึงอย่างนั้นก็มีหลายคนที่ยังอยากเป็นพนักงานสอบสวนอยู่ เพราะการเป็นพนักงานสอบสวนจำเป็นต้องใช้ความรู้ความสามารถเฉพาะทางเหมือนกัน สายงานอื่นที่มาทำตำแหน่งนี้มักจะทำงานไม่ได้ประสิทธิภาพเท่ากับคนที่จบสายงานนี้โดยตรง อีกทั้งเงินเดือนสวัสดิการที่ได้รับของพนักงานสอบสวนก็ไม่ได้น้อยอย่างที่หลายคนเข้าใจ

เงินเดือนของพนักงานสอบสวนเริ่มที่เท่าไหร่

โดยเงินเดือนเริ่มต้นของเจ้าพนักงานสอบสวนจะเริ่มที่ 15,920 บาท เทียบเท่ากับตำรวจชั้นสัญญาบัตร และจะมีเงินประจำตำแหน่งอีกดังต่อไปนี้

รองสารวัตร: 12,000 บาท (ร้อยตำรวจตรี-ร้อยตำรวจเอก)

สารวัตรสอบสวน: 14,400 บาท (ร้อยตำรวจเอก-พันตำรวจโท)

รองผู้กำกับการสอบสวน: 17,300 บาท (พันตำรวจโท)

ผู้กำกับการสอบสวน: 21,000 บาท (พันตำรวจเอก)

เมื่อรวมเงินเดือนเริ่มต้นกับเงินประจำตำแหน่งของพนักงานสอบสวน ก็จะเริ่มที่ประมาณ 27,920 บาทเลยทีเดียว

เงินเดือนพนักงานสอบสวน

อยากเป็นพนักงานสอบสวนต้องเรียนอะไร

สำหรับตำแหน่งพนักงานสอบสวนนั้นจะมีการเปิดรับสมัครทั้งบุคคลภายนอกและบุคคลภายใน ซึ่งบุคคลภายนอกคือคนที่ยังไม่เคยผ่านการเป็นตำรวจมาก่อน และบุคคลภายในคือคนที่เป็นตำรวจอยู่แล้ว

หากต้องการเป็นพนักงานสอบสวนจำเป็นต้องจบจากปริญญาตรีจากนิติศาสตร์บัณฑิตเป็นอย่างน้อยเท่านั้น โดยจะไม่มีการจำกัดเกรดเฉลี่ย ขอเพียงแค่จบนิติศาสตร์บัณฑิตก็เพียงพอ ดังที่ได้กล่าวไป การเป็นพนักงานสอบสวนจะต้องรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อนำตัวผู้กระทำผิดมารับโทษ จึงจำเป็นจะต้องมีความรู้ทางด้านกฎหมายพอสมควร

มาถึงตรงนี้หากใครที่ไม่ได้เรียนจบนิติศาสตร์บัณฑิตมาอาจจะรู้สึกผิดหวัง แต่หากอยากเป็นตำรวจจริง ๆ ก็อย่าเพิ่งหมดหวังไป เพราะอาชีพนี้ยังมีตำแหน่งหลายตำแหน่งที่ไม่จำเป็นต้องใช้วุฒิปริญญาตรีทางนิติศาสตร์บัณฑิต หากอยากรู้ข้อมูลเพิ่มเติมล่ะก็ สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่บทความ อยากเป็นตำรวจ ได้เลย

พนักงานสอบสวนเรียนอะไร

การสอบเป็นพนักงานสอบสวนมีวิชาอะไรบ้าง

สำหรับการเตรียมตัวสอบเป็นพนักงานสอบสวน รายวิชาที่ต้องเตรียมตัวอ่านหนังสือสอบก็จะมีดังต่อไปนี้ โดยจะมีการแบ่งการสอบออกเป็น 2 ส่วน

ส่วนที่ 1 เป็นการสอบเกี่ยวกับความรู้ทั่วไป ได้แก่

  • คณิตศาสตร์ 30 ข้อ
  • ภาษาไทย 20 ข้อ

ส่วนที่ 2 เป็นการสอบความรู้เฉพาะทาง ได้แก่

  • ประมวลกฎหมายอาญา 25 ข้อ
  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา 25 ข้อ
  • กฎหมายลักษณะพยาน 25 ข้อ
  • พรบ. วิธีปฏิบัติราชการทางการปกครอง พ.ศ. 2539 และความรู้เกี่ยวกับสิทธิมนุษยชน 10 ข้อ
  • ภาษาอังกฤษ 15 ข้อ

ทั้งหมด 150 ข้อ คะแนนรวมทั้งหมดคือ 150 คะแนน เกณฑ์การสอบผ่านของแต่ละส่วนคือ 60 %

ส่วนที่ 1 วิชาคณิตศาสตร์และวิชาภาษาไทย รวม 50 ข้อ ต้องผ่านรวมกันทั้งหมด 30 ข้อ

ส่วนที่ 2 วิชากฎหมายและวิชาภาษาอังกฤษ รวม 100 ข้อ ต้องผ่านทั้งหมด 60 ข้อ

และจำเป็นต้องผ่านเกณฑ์ที่บังคับทั้ง 2 ส่วน ไม่สามารถผ่านแค่อันใดอันหนึ่งได้ หากผ่านเกณฑ์แค่ส่วนที่ 1 แต่ไม่ผ่านส่วนที่ 2 ก็จะถือว่าไม่ผ่าน

*ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามปีที่สมัคร โปรดตรวจสอบกับเว็บไซต์ที่เปิดรับสมัครอีกครั้ง

การสอบเป็นพนักงานสอบสวน

คุณสมบัติที่ต้องมีหากอยากเป็นพนักงานสอบสวน

แบ่งตามเกณฑ์การรับสมัครต่อไปนี้

บุคคลภายนอก

  • อายุไม่เกิน 35 ปี จนถึงวันปิดรับสมัคร
  • ไม่จำกัดเพศ
  • เพศชายสูงไม่ต่ำกว่า 160 ซม. รอบอกไม่ต่ำกว่า 77 ซม.
  • ไม่จำกัดน้ำหนัก และค่าดัชนีมวลกาย [BMI] ต้องไม่เกิน 35 เพราะถ้าหากเกินจะถือว่าเป็นโรคอ้วน ซึ่งเป็นโรคต้องห้าม
  • วุฒิการศึกษาปริญญาตรีสาขานิติศาสตร์บัณฑิต แต่ในบางปีอาจเปิดรับเนติบัณฑิตเช่นกัน
  • ต้องเป็นผู้ที่ไม่มีภาระทางทหาร ไม่ว่าจะเป็นการผ่อนผันทหาร การเป็นทหารเกณฑ์ หรือผู้ที่จะต้องเกณฑ์ทหาร เว้นแต่ผู้สมัครที่จะปลดประจำการทหารภายในวันที่ได้รับการบรรจุเป็นตำรวจ

บุคคลภายใน

  • ไม่จำกัดอายุ
  • จบการศึกษาจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจ
  • เป็นตำรวจชั้นประทวนระดับนายสิบขึ้นไป หากมีวุฒิและคุณสมบัติครบ สามารถสอบเลื่อนเป็นตำรวจชั้นสัญญาบัตรระดับนายร้อย และเลือกบรรจุเป็นพนักงานสอบสวนได้

สรุป

การเป็นตำรวจอาจจะดูเหมือนยาก แต่ก็ไม่ได้ยากอย่างที่หลายคนคิด หากอยากเป็นพนักงานสอบสวนหรือสนใจตำรวจสายอาชีพอื่น ๆ แต่ไม่รู้จะปรึกษาใคร สามารถติดต่อ GovEntrance Police ได้ที่ เว็บไซต์ของ GovEntrance ได้เลย เพราะทางเราติวสอบตำรวจมาหลายรุ่นแล้ว ทั้งยังมีแนวข้อสอบเก่า รวมถึงคอร์สสอนสด คอร์สเฉพาะทางหลายคอร์สให้ทดลองเรียนก่อนด้วย 

Top